วงการหนังไซไฟ จะหนังไทย หนังฝรั่ง หรือประเทศไหน ๆ ก็อยู่กับเรื่องของหุ่นยนต์ จิตวิญญาน ปรัชญา มาตลอด ถ้าเอาขายง่ายหน่อยก็จะไปทางสงคราม เพราะคนเราชอบดูอะไรระเบิด ยิ่งถ้าเป็นบนจอเงินขนาดใหญ่ที่เราเรียกกันว่าโรงหนังก็ยิ่งดีและขายดีขึ้นไปอีก ซึ่งหนังฝรั่ง ฝั่งตะวันตก ฮอลลีวูดก็ดูจะสร้างมาตรฐานเอาไว้ดีทีเดียว อย่างไรก็ดี หนังก็มีอยู่หลายประเภท สำหรับหลายความชอบของคน ณ จุด ๆ นึงก็มีการเอาหุ่นยนต์ไปผูกกับความเชื่อ ศาสนา ปรัชญา ขึ้นมาได้ ด้วยพล็อตเรื่องสุดคลิเช่ แต่ก็คลาสสิคที่ตั้งอยู่บนคำถามง่าย ๆ ว่าถ้าปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่เป็นเหมือนสมองของหุ่นยนต์มีการพัฒนาไปจนถึงจุดที่คิดเองได้จริงๆ แล้วแบบนั้นเราจะมองว่าหุ่นยนต์มีวิญญานหรือไม่

Automata ก็เป็นหนังฝรั่งนอกกระแสอีกเรื่องหนึ่งที่เล่นกับประเด็นนี้ โดยในโลกที่หนังฝรั่งเรื่องนี้สร้างขึ้น หุ่นยนต์ที่คิดเองได้หรือ AI ไม่ใช้สิ่งที่ผู้คนเปิดอ้าแขนรับ มีการไล่ล่า ทำลายทิ้งอยู่ตลอด ซึ่งอาจจะเป็นผลจากสงครามที่ครั้งหนึ่งคนเคยสู้กับ AI หรืออะไรก็ตาม โดยตัวเอกของเรื่องก็มีหน้าที่ ที่จะต้องสืบหาและทำลายของเถื่อนพวกนี้  แต่ด้วยงาน และการเดินทางของตัวละครก็ทำให้เขาได้เห็นว่าสิ่งที่แบ่งแยกความดี ความชั่วร้าย หรือความรุนแรงที่กระทำต่อกัน ไม่ใช่เรื่องที่ว่าสิ่งนั้นๆ เป็นมนุษย์ หรือเป็นหุ่นยนต์ แต่เป็นเรื่องของปัจเจกเอง ซึ่งมนุษย์เองก็มีความดี เลว ปนกันอยู่ในตัว จะมากจะน้อยเท่านั้นเอง

หนังฝรั่งเรื่องนี้พาเราไปสำรวจแง่มุมต่าง ๆ ที่ทำให้เราตั้งคำถามได้ว่า ถ้าหากหุ่นมีชีวิตจิตใจ แล้วมนุษย์ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเท่าเทียม สองสิ่งนี้จะสามารถอยู่ร่วมกันได้จริงหรือไม่ เพราะยังไง มนุษย์ก็เป็นผู้สร้างปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ต้น สมองหรือจิตใจที่คิดได้เองก็เหมือนกับเด็กหรือผ้าขาว ความรุนแรงหรือสงครามก็เป็นภาพสะท้อนหรือเป็นสีที่ผู้สร้างระบายลงไปเอง แต่แน่นอนว่ากับหนังเรื่องนี้ การเซ็ทโลกออกมาในแนว dystopian ผู้คนกระทำกับ AI เหมือนเป็นเครื่องจักรชิ้นหนึ่ง ซึ่งถ้ามองเป็นทาส ซักวันนึงทาสก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้ปกครองอยู่ดี ถ้าหากว่าถูกกระทำใส่แบบไม่สนใจใยดี

ตรงนี้ส่วนตัวผู้เขียนมองรวมๆว่าหนังไซไฟแนวนี้ ใช้ภาพลักษ์ของหุ่นยนต์ แทนผู้คนในโลกที่ 3 หรือประเทศใดๆ ที่ยังมีการแบ่งแยกพลเมืองที่สุดโต่งจนเกินไป หรือแม้แต่ระบบทาส ทั้ง ๆ ที่เราก็คือมนุษย์เหมือนกัน แต่พอเราใช้หุ่นเป็นตัวแทนในการสื่อสาร มันก็จะช่วยให้ผู้คนรู้สึกระแคะระคายน้อยลงกับความโหดร้ายที่ผู้คนกระทำต่อกัน จริง ๆ แล้วมันก็คือภาพสะท้อนจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกของเรานั่นแหละ ทั้งสงคราม การค้าทาส เผด็จการ หรืออะไรก็ตามในประวัติศาสตร์โลกเท่าที่มีการจดบันทึกกันมา

ถึงตรงนี้จะเป็นสปอยล์ตอนจบละ ก่อนที่จะออกทะเลไปไกล ในตอนท้ายของเรื่อง ตัวเอกพบว่า ไม่เพียงแต่สิ่งที่เค้าตามล่าอยู่จะเป็น AI จริง ๆ ที่รอดไปได้ แต่ว่า AI ตัวนั้นกลับมีความเป็นมนุษย์มากกว่าหลายคนที่เค้าพบเจอเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังได้สร้างหุ่นชนิดใหม่ออกมา ที่สามารถเติบโตได้ ราวกับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ ซึ่งตัวเอกจะตัดสินใจยังไงต่อนั้น คิดว่าผู้อ่านคงจะเดาได้ไม่ยาก หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดูน่าตื่นเต้น แต่ก็เหมาะกับวันสบายๆ ที่อยากดูอะไรให้มานั่งคิดลึกๆได้เหมือนกัน

By Ricardo

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *